กรณีบริษัทฯ จ่ายค่าน้ำมันรถให้กับพนักงานของบริษัทฯ ซึ่งได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวไปใน กิจธุระของบริษัทฯ โดยจ่ายให้เป็นการเหมาล่ำซำในอัตรากิโลเมตรละ 5 บาท จึงเกิดปัญหาว่า พนักงานจะต้องนำเงินได้จำนวนนี้ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ และต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กรมสรรพากรได้มีแนววินิจฉัยดังนี้
การที่บริษัทฯ จ่ายเงินค่าน้ำมันรถให้กับพนักงาน หากจะได้รับยกเว้นตามมาตรา 42(1) แห่งประมวลรัษฎากร ก็ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้คือ ต้องมีหลักฐานการใช้รถและพิสูจน์จนเป็นที่เชื่อถือแก่การตรวจสอบไต่สวนของเจ้าพนักงานประเมิน กล่าวคือ
1. ต้องจ่ายไปโดยสุจริตตามความจำเป็นเฉพาะในการที่ต้องปฏิบัติการตามหน้าที่ของตนเท่านั้น และได้จ่ายไปทั้งหมดเพื่อการปฏิบัติงานตามหน้าที่นั้นด้วย และ
2. บริษัทฯ ต้องมีระเบียบอนุญาตให้มีการเบิกจ่ายค่าน้ำมันรถได้
3. ต้องมีหนังสืออนุญาตพร้อมทั้งการบันทึกอนุญาตให้เดินทางไปติดต่องานจากที่ไหนถึงไหน ระยะทางเท่าใด ชื่อเจ้าของรถ หมายเลขทะเบียนรถ
4. ต้องมีใบเสร็จรับเงินค่าน้ำมันรถที่มีการระบุชื่อเจ้าของรถ หมายเลขทะเบียนรถ
เงินค่าน้ำมันรถที่บริษัทฯ ได้จ่ายให้พนักงานส่วนที่นอกเหนือจากเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งบริษัทฯ ได้จ่ายให้เป็นการเหมาล่ำซำในอัตรากิโลเมตรละ 5 บาท จึงเข้าลักษณะเป็นประโยชน์อย่างอื่นที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร จึงต้องนำเงินจำนวนนี้ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย
การได้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าน้ำมันตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว แม้จะมีข้อยุ่งยากอยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในวิสัยที่จะพึงกระทำ และอาจปรับใช้เพื่อการควบคุมภายในเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานไปด้วยในตัว
มาดูแนวคำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นไปตามหนังสือกรมสรรพากรเลขที่ กค 0811(กม.02)/1681 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2543
เลขที่หนังสือ : กค 0811(กม.02)/1681
วันที่ : 6 พฤศจิกายน 2543
เรื่อง : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีประโยชน์ที่พนักงานบริษัทได้รับเป็นค่าน้ำมันรถ
ข้อกฎหมาย : มาตรา 42(1)
ข้อหารือ :
บริษัทฯ จ่ายค่าน้ำมันรถให้กับพนักงานของบริษัทฯ ซึ่งได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวไปใน กิจธุระของบริษัทฯ โดยจ่ายให้ในอัตรากิโลเมตรละ 5 บาท บริษัทฯ จึงหารือว่า พนักงานจะต้องนำ เงินได้จำนวนนี้ ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ และมีข้อกำหนดให้ต้องมี หลักฐานอะไรบ้าง
แนววินิจฉัย
(1) การที่บริษัทฯ จ่ายเงินค่าน้ำมันรถให้กับพนักงาน หากจะได้รับยกเว้นตามมาตรา 42(1) แห่งประมวลรัษฎากร ก็ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้คือ ต้องมีหลักฐานการใช้รถและพิสูจน์จน
เป็นที่เชื่อถือแก่การตรวจสอบไต่สวนของเจ้าพนักงานประเมิน กล่าวคือต้องจ่ายไปโดยสุจริตตามความจำเป็นเฉพาะในการที่ต้องปฏิบัติการตามหน้าที่ของตนเท่านั้น และได้จ่ายไปทั้งหมดเพื่อการปฏิบัติงานตามหน้าที่นั้นด้วย และบริษัทฯ ต้องมีระเบียบอนุญาตให้มีการเบิกจ่ายค่าน้ำมันรถได้ มีหนังสืออนุญาตพร้อมทั้งการบันทึกอนุญาตให้เดินทางไปติดต่องานจากที่ไหนถึงไหน ระยะทางเท่าใด ชื่อเจ้าของรถ หมายเลขทะเบียนรถ ใบเสร็จรับเงินค่าน้ำมันรถที่มีการระบุชื่อเจ้าของรถ หมายเลขทะเบียนรถ
(2) เงินค่าน้ำมันรถที่บริษัทฯ ได้จ่ายให้พนักงานส่วนที่นอกเหนือจากข้อ (1) เข้าลักษณะเป็นประโยชน์อย่างอื่นที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร จึงต้องนำเงินจำนวนนี้ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย
เลขตู้ : 63/29940
ความเห็นล่าสุด