อัตรานำส่งเงินสมทบประกันสังคมสำหรับปี 2556 (กฎกระทรวง) | รับทำเงินเดือน อัตรานำส่งเงินสมทบประกันสังคมสำหรับปี 2556 (กฎกระทรวง) | รับทำเงินเดือน

อัตรานำส่งเงินสมทบประกันสังคมสำหรับปี 2556 (กฎกระทรวง)

อัตรานำส่งเงินสมทบประกันสังคมปี 2556 ค่อนข้างจะมีความสับสนในการนำส่งค่อนข้างมาก เนื่องจากหน่วยงานประกันสังคมแต่ละหน่วย (รวมถึง 1506) และในเพสบุ๊ค จะตอบไม่ค่อยตรงกัน แรกๆ ก็ให้หัก 4% ตอนหลังมาบอกให้หัก 5% แถมขู่อีกว่า ถ้าหัก 4% จะมีหนังสือแจ้งและเรียกเก็บค่าปรับเพิ่ม แต่ถ้าหัก 5% เมื่อมีกฎกระทรวงออกมาค่อยมาทำเรื่องขอคืน พอไปยื่นแบบจริง (ประมาณต้นเดือนกพ.2556) ก็บอกให้กลับไปแก้เป็น 4% โดยบอกว่าในตอนนี้ยื่น 4% ได้แล้วไม่ต้องรอกฎกระทรวง เพราะในระบบคอมพิวเตอร์ (หน้าจอคอม) สามารถเลือกอัตรา 4% ได้แล้ว (เดิมเลือกไม่ได้ จึงจำเป็นต้องแจ้งเป็น 5% ไปก่อน)

กฎกระทรวง
กำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. 2556

 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓และมาตรา ๔๖ วรรคหนึ่งและวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของ บุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
            ข้อ ๑ กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
            ข้อ ๒ ให้ยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๕๕
            ข้อ ๓ ให้รัฐบาล นายจ้าง และผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๓ ออกเงินสมทบเข้ากองทุนเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บ ป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีคลอดบุตร กรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ ตามบัญชีอัตราเงินสมทบท้ายกฎกระทรวงนี้ ดังต่อไปนี้
            (๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้เป็นไปตามอัตราในบัญชี ก.
            (๒) ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้นไป ให้เป็นไปตามอัตราในบัญชี ข.
 
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖
เผดิมชัย สะสมทรัพย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

บัญชีอัตราเงินสมทบ บัญชี ก.

  

ผู้ออกเงินสมทบ

อัตราเงินสมทบเป็นร้อยละของค่าจ้างของผู้ประกันตน

 
๑. เงินสมทบเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีคลอดบุตร
(๑) รัฐบาล
(๒) นายจ้าง
(๓) ผู้ประกันตน
 
๒. เงินสมทบเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร
และกรณีชราภาพ
(๑) รัฐบาล
(๒) นายจ้าง
(๓) ผู้ประกันตน
 
 

 
0.5
0.5
0.5
 
 
 
2
3
3

  

บัญชีอัตราเงินสมทบ บัญชี ข.

  

ผู้ออกเงินสมทบ

อัตราเงินสมทบเป็นร้อยละของค่าจ้าง
ของผู้ประกันตน

 
๑. เงินสมทบเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีคลอดบุตร
(๑) รัฐบาล
(๒) นายจ้าง
(๓) ผู้ประกันตน
 
๒. เงินสมทบเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร
และกรณีชราภาพ
(๑) รัฐบาล
(๒) นายจ้าง
(๓) ผู้ประกันตน
 
 
 
 

1.5

1.5
1.5
 
 
 
 
1
3
3

 

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงอัตราเงินสมทบเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณี ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีคลอดบุตร  กรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ โดยกำหนดให้รัฐบาล นายจ้าง และผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๓  ออกเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมในอัตราที่เหมาะสม เพื่อเป็นการบรรเทาภาระของนายจ้างและผู้ประกันตนให้สอดคล้องกับสภาพทาง เศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2556 จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

Speak Your Mind

*

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.