เพิ่มเติม
1.จากเดิมที่ต้องส่งแบบ สปช.3 จำนวน 3 ฉบับ และงบการเงิน 2 ชุด ปัจจุบัน(ปี 2551) ให้ส่งแบบ สปช.3 จำนวน 2 ฉบับและงบการเงิน 1 ชุด (ต่างจังหวัดให้เพิ่มอีกอย่างละ 1) และในวันนำส่งงบ จะมีการตรวจสอบว่าผู้สอบบัญชีแจ้งรายชื่อธุรกิจแล้วหรือยัง โดยจะมีตรายางประทับไว้ในแบบ สปช.3 ที่คืนมา 1 ฉบับ
ดูประกาศแก้ไข เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นงบการเงิน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๒ คลิ๊ก
2.อีกเรื่องที่ต้องระวังก่อนส่งงบการเงิน ให้ตรวจสอบก่อนว่าในข้อบังคับบริษัท กำหนดรอบบัญชีไว้เป็นเมื่อไหร่ ถ้าส่งงบไม่ตรงกับรอบบัญชีที่แจ้งไว้ตอนจดทะเบียนบริษัท ทางเจ้าหน้าที่จะไม่รับแบบ ต้องไปแก้ไขข้อบังคับ หรือทำหนังสือยืนยันให้กรรมการเซ็นรับรองและประทับตราว่า บริษัทจะดำเนินการเปลี่ยนรอบบัญชีในข้อบังคับต่อไป
กำหนดเวลายื่นงบการเงิน
1) ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิติบุคคลที่ตั้งตามกฎหมายของต่างประเทศที่ ประกอบ ธุรกิจในประเทศไทย และกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากรต้องยื่นงบการเงินภายใน 5 เดือนนับแต่วันปิดบัญชี ดังนั้นงบการเงินที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม พฤษภาคมของปีถัดไป
2) บริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด ต้องจัดทำงบการเงินขึ้นเพื่อให้ผู้สอบบัญชี ีรับอนุญาตตรวจสอบ รับรอง แล้วจึงนำเสนอเพื่ออนุมัติในที่ประชุมใหญ่ โดยจะต้องจัดให้มี การประชุมเพื่ออนุมัติิงบการเงิน ภายใน 4 เดือน นับแต่วันปิดบัญชี ดังนั้นรอบปีบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี จะต้องจัด ประชุมภายในวันที่ 30 เมษายนของปีถัดไป มิฉะนั้นจะมีความผิดโทษปรับไม่ เกิน 20,000 บาท
งบการเงินที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมแล้ว จะต้องนำไปยื่นภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ได้รับอนุมัติ จากที่ประชุมใหญ่
ตัวอย่าง
- ประชุมเมื่นวันที่ 31 มีนาคม จะต้องนำไปยื่นภายในวันที่ 30 เมษายน ของเดือนถัดไป
- ประชุมเมื่อวันที่ 20 เมษายน จะต้องนำไปยื่นภายในวันที่ 20 พฤษภาคม ของเดือนถัดไป
- ประชุมเมื่อวันที่ 30 เมษายน จะต้องนำไปยื่นภายในวันที่ 31 พฤษภาคม ของเดือนถัดไป
เอกสารที่ต้องการใช้ในการยื่นงบการเงิน
กิจการที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร
1) แบบนำส่งงบการเงิน (แบบ ส.บช.3) จำนวน 2 ฉบับ (แก้ไขใหม่)
2) งบการเงิน จำนวน 1 ชุด (แก้ไขใหม่)
3) สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นในวันประชุมใหญ่อนุมัติงบการเงินของบริษัทจำกัด จำนวน 1 ชุดจะต้องยื่นภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ประชุมใหญ่
***กรณีมิได้ยื่นพร้อมกับงบการเงิน จะต้องมีหนังสือนำส่งลงนามโดยกรรมการผู้มีอำนาจประทับตรา (ถ้ามี) ด้วยสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัดจะต้องลงนามรับรองโดยกรรมการอย่างน้อย 1 คน
4) สำเนารายงานการประชุมเฉพาะที่เกี่ยวกับการอนุมัติงบการเงิน การจัดสรรกำไร และการแบ่งเงินปันผล (กรณีเป็นบริษัทมหาชนจำกัด) จำนวน 1 ชุด
5) รายงานประจำปี (กรณีเป็นบริษัทมหาชนจำกัด) จำนวน 1 ชุด
กิจการที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค
ยื่นเอกสารเช่นเดียวกับนิติบุคคลที่ตั้งในกรุงเทพมหานคร แต่ต้องเพิ่มเอกสารตาม 1-5 (แล้วแต่ประเภทกิจการ) อีกอย่างละ 1 ชุด
*การกรอกแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บ.ช.3)
- ให้กรอกข้อความลงในชื่อว่างหรือทำเครื่องหมายถูกในช่องสี่เหลื่อมตามที่ประกอบอยู่จริงเท่านั้น
- ให้ระบุประเภทธุรกิจและระบุสินค้า/บริการที่ประกอบกิจการอยู่ในปัจจุบันให้ตรงตามความเป็นจริง เนื่องจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะให้เป็นข้อมูลเพื่อเผยแพร่ธุรกิจของท่านทั้งทางอินเตอร์เน็ต และตามที่มีผู้ขอข้อมูล
- ผู้ทำบัญชีต้องลงชื่อในแบบนำส่งด้วย โดยผู้ทำบัญชีต้องเป็นผู้ที่ได้แจ้งรายชื่อต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไว้แล้วว่าเป็นทำบัญชีของกิจการที่นำส่งงบการเงิน
- ผู้มีอำนาจทำการแทนกิจการต้องลงลายมือชื่อในแบบด้วยตนเอง จะมอบอำนาจให้ผู้ใดลงลายมือแทนมิได้ และประทับตรา (ถ้ามี) ด้วย
รายละเอียดในงบการเงิน ประกอบด้วย
1.ผู้มีอำนาจทำการแทนกิจการจะต้องลงลายมือชื่อและประทับตรา (ถ้ามี) ในงบดุลและงบกำไรขาดทุนทุกหน้าส่วนเอกสารงบการเงินอื่น ให้ผู้มีอำนาจทำการแทนกิจการอย่างน้อยหนึ่งคนลงลายมือชื่อรับรอง
2.งบการเงินของบริษัทจำกัดให้ระบุข้อความไว้ในหน้างบดุลด้วยกว่า "งบการเงินได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นครั้งใด เมื่อวันเดือนปีใด" เว้นแต่กรณีส่งสำเนารายงานการประชุมดังกล่าวมาพร้อมกับการยื่นงบการเงิน
3.งบการเงินของนิติบุคคลที่ตั้งในกรุงเทพมหานครจะต้งมีต้นฉบับที่ผู้สอบบัญชีลงลายมือชื่อด้วยหมึก อย่างน้อย 1 ชุด กรณีตั้งในภูมิภาคต้องมีต้นฉบับอย่างน้อย 2 ชุด สำเนาที่นำส่งพร้อมต้นฉบับจะต้องรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้มีอำนาจทำการแทนกิจการและประทับตรา (ถ้ามี) ในเอกสารทุกหน้า
4.ให้หมายเหตุในงบดุลหรือแจ้งในแบบ ส.บช.3ว่าไม่ประกอบกิจการ หากธุรกิจมิได้ประกอบกิจการในรอบปีบัญชีที่นำส่งงบการเงิน
การแจ้งรายชื่อธุรกิจที่ผู้สอบบัญชีลงลายมือชื่อรับรองงบการเงิน
– งบการเงินที่ยื่นตอ่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อกรมฯได้รับงบการเงินดังกล่าวแล้วเจ้าหน้าที่จะดำเนินการ ตรวจสอบว่าเป็นนิติบุคคลที่ผู้สอบบัญชีได้แจ้งชื่อไว้ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตามประกาศ ก.บช. ฉบับที่ 44 (พ.ศ.2544) หรือไม่ หากไม่ปรากฎชื่อกรมฯ จะทำการแจ้งนิติบุคคลให้ดำเนินการให้ถูกต้อง ภายใน 2 เดือน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง จึงจะถือว่าได้ยื่นงบการเงินไว้โดยถูกต้องแล้วนับตั้งแต่วันที่ยื่นครั้งแรก หากไม่ดำเนินการภายในระยะเลาดังกล่าวจะถือว่าไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าย่อมเป็นความผิดมีโทษปรับตามกฏหมาย
– จึงขอให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องว่าผู้สอบบัญชีได้แจ้งรายชื่อธุรกิจไว้แล้วหรือไม่หรือตรวจสอบได้ที่ www.dbd.go.th หากยังมิดได้แจ้งขอให้ดำเนินการแจ้งรายชื่อต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก่อนำมายื่น
สถานที่ยื่นงบการเงิน
– กิจการที่ตั้งในกรุงเทพมหานคร ยื่นที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ถนนนนทบุรี 1 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 1100
– กิจการที่ตั้งในต่างจังหวัด ยื่นที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือ สำนัหงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดที่ตั้งกิจการการจัดส่งทางไปรษณีย์
– ส่ง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ในกรุงเทพฯและไปรษณีย์นนทบุรี ถนนติวานนท์ ถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยสามารถเลือกใช้วิธีไปรษณีย์รับประกันทั้งไปและกลับ และแนบซองติดแสตมป์จ่าหน้าซองกลับถึงตัวผู้รับได้ 2 แบบคือ
- ฝากส่งงบการเงิน จำนวน 1 ชุด ชำระค่าบริการ 65 บาท หากเอกสารสูญหาย/เสียหายจะได้ชดใช้เป็นเงิน 500 บาท ทั้งไปและกลับ หรือ
- ฝากส่งงบการเงิน จำนวนไม่เกิน 5 ชุดส่งในซอง/กล่องเดียวกัน ชำระค่าบริการ 105 บาท ซึ่งหากเอกสารสูญหาย/เสียหาย จะได้รับชดใช้เป็นเงิน 700 บาท สำหรับขาไป และ 500 บาท สำหรับขากลับ
กรณีส่งถึงสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสามารถเลือกส่งได้เฉพาะไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หรือพัสดุไปรษณีย์หรือไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) เท่านั้น แต่ต้องแนบซองติดแสตมป์จ่าหน้าซองกลับเช่นเดียวกัน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะถือว่ากิจการได้ยื่นงบการเงินตั้งแต่วันที่ประทับบนซองจดหมาย/กล่อง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ต้นทาง
คำเตือน |
1)เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ขอให้นิติบุคคลที่มีหน้าที่ต้องยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดรีบดำเนินการจัดส่งงบการเงินก่อนเดือนพฤษภาคม หากนำมายื่นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมอาจมีปัญหาไม่ได้รับความสะดวกและรวดเร็วเท่าที่ควร หรือจัดส่งทางไปรษณีย์จะได้รับความสะดวกกว่า
2)กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะได้รับฝากงบการเงินที่ยื่นครั้งละจำนวนมากของสำนักบริการรับทำบัญชีอีกต่อไป
3)ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีไม่ยื่นงบการเงินหรือยื่นล่าช้าเกินกำหนดเวลามีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และปรับผู้มีอำนาจทำการแทนกิจการอีกไม่เกิน 50,000 บาท ด้วย ทั้งนี้ กรมได้กำหนดอัตราค่าปรับตามระยะ เวลาที่ยื่นงบการเงิน หากยื่นงบการเงินล่าช้าอัตราค่าปรับก็จะเพิ่มขึ้น หากมีข้อสงสัยประการใด สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02 547 4369-70 หรือสายด่วน 1570
ตารางค่าปรับ |
||||
ลำดับ |
ประเภทผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี |
ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี |
กรรมการผู้จัดการ/หุ้นส่วน |
ยอดรวม
|
1.อัตราค่าปรับกรณียื่่นงบการเงินล่าช้าไม่เกิน 2 เดือน |
||||
1 |
ทุกประเภทยกเว้นกิจการร่วมค้า |
600 |
600 |
1,200 |
2 |
กิจการร่วมค้า |
600 |
– |
600 |
2.อัตราค่าปรับกรณียื่่นงบการเงินล่าช้า่เกินกว่า 2 เดือน แต่ไม่เกิน 4 เดือน |
||||
1 |
ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน |
1,200 |
1,200 |
2,400 |
2 |
บริษัทจำกัด |
2,400 |
2,400 |
4,800 |
3 |
นิติบุคคลต่างประเทศ |
6,000 |
6,000 |
12,000 |
4 |
บริษํทมหาชนจำกัด |
12,000 |
12,000 |
24,000 |
5 |
กิจการร่วมค้า |
6,000 |
– |
6,000 |
3.อัตราค่าปรับกรณียื่่นงบการเงินล่าช้า่เกินกว่า 4เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน |
||||
1 |
ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน |
2,400 |
2,400 |
4,800 |
2 |
บริษัทจำกัด |
4,800 |
4,800 |
9,600 |
3 |
นิติบุคคลต่างประเทศ |
12,000 |
12,000 |
24,000 |
4 |
บริษํทมหาชนจำกัด |
24,000 |
24,000 |
48,000 |
5 |
กิจการร่วมค้า |
12,000 |
– |
12,000 |
4.อัตราค่าปรับกรณียื่่นงบการเงินล่าช้า่เกินกว่า 6 เดือนขึ้นไป หรือไม่ยื่นงบการเงิน |
||||
1 |
ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน |
3,600 |
3,600 |
7,200 |
2 |
บริษัทจำกัด |
6,000 |
6,000 |
12,000 |
3 |
นิติบุคคลต่างประเทศ |
18,000 |
18,000 |
36,000 |
4 |
บริษํทมหาชนจำกัด |
36,000 |
36,000 |
72,000 |
5 |
กิจการร่วมค้า |
18,000 |
– |
18,000 |
สำหรับผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีที่มีรอบบัีญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 เป็นต้นไป อายุความของค่าปรับเป็น 1 ปี
นับจากวันครบกำหนดวันสุดท้ายของการยื่นงบการเงิน
ที่มา..http://www.dbd.go.th/mainsite/fileadmin/contents/docservice/files/html/explanation_account.html
Speak Your Mind