ภาษีอากร |
|
เมื่อ นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนมีหน้าที่ต้องเสียภาษีอากรตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ถูกต้อง ในส่วนนี้จึงสรุปการเสียภาษีอากรที่เกี่ยวข้องไว้เพื่อเป็นข้อมูลดังปรากฏ ต่อไปนี้ 1.ภาษีอากรของนักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างชาติที่ประกอบกิจการในประเทศไทย
* หมายเหตุ : กำไรจากการซื้อ/ขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ ผู้ลงทุนมีภาระภาษีเช่นเดียวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ กรม สรรพากรได้ตระหนักถึงภาระภาษีอากร ที่ผู้ลงทุนต่างประเทศมีหน้าที่ต้องเสียภาษี ซึ่งบางกรณีผู้เสียภาษีอาจมีหน้าที่ต้องเสียภาษีในประเทศของตนด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาและขจัดการเสียภาษีซ้ำซ้อน ป้จจุบันกรมสรรพากรได้ดำเนินการเจรจาและจัดทำอนุสัญญาภาษีซ้อนในนามประเทศ ไทยกับประเทศต่างๆ จำนวน 52 ประเทศ ซึ่งมีประเทศที่ได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับกำไรจากการขายหลักทรัพย์ ตามอนุสัญญาภาษีซ้อน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 28 ประเทศ ดังต่อไปนี้ ปรับปรุงล่าสุด 24 กุมภาพันธ์ 2552
หมาย เหตุ : ประเทศที่มีเครื่องหมาย * คือ ประเทศที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินกำไรจากการขายหลักทรัพย์โดยมีเงื่อนไขตามที่ ระบุไว้ในอนุสัญญาภาษีซ้อน ทั้งนี้ โปรดศึกษาและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการ ยกเว้นภาษีเงินได้ตามอนุสัญญาภาษีซ้อน ในเว็ปไซต์ของกรมสรรพากรที่ www.rd.go.th ก่อนตัดสินใจลงทุน 4.ภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ลงทุนจะถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการเป็น นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์/ตราสารอนุพันธ์ ในอัตรา 7% ของค่าธรรมเนียมหรือค่านายหน้าในการซื้อขายที่บริษัทหลักทรัพย์นั้นเรียก เก็บ 5.อากรแสตมป์ ในการโอนใบหุ้น, ใบหุ้นกู้ และพันธบัตรที่มีตราสารการโอน ผู้โอนจะต้องติดอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาทสำหรับทุกจำนวน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท โดยคิดตามราคาหุ้นที่ชำระแล้วหรือตามราคาในตราสารโอน (แล้ว แต่อย่างใดจะมากกว่า) ยกเว้นถ้าเป็นการโอนหลักทรัพย์จดทะเบียนที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นนายทะเบียน หรือเป็นการโอนพันธบัตรรัฐบาล และหน่วยลงทุนไม่ต้องติดอากรแสตมป์ |
ความเห็นล่าสุด