นิติบุคคลซื้อประกันชีวิตให้กรรมการ (0706/6949) | รับทำเงินเดือน นิติบุคคลซื้อประกันชีวิตให้กรรมการ (0706/6949) | รับทำเงินเดือน

นิติบุคคลซื้อประกันชีวิตให้กรรมการ (0706/6949)

เลขที่หนังสือ กค 0706/6949

วันที่ 17 สิงหาคม 2549

เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีกรรมการบริหารกระทำการแทนนิติบุคคลในการซื้อประกันชีวิตเพื่อประโยชน์ ของนิติบุคคล

ข้อกฎหมาย

ข้อหารือ

       บริษัทฯ ได้ออกกรมธรรม์แบบใหม่ที่จะให้ความคุ้มครองบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ("นิติบุคคล") ที่มีภาระหนี้สินกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งบริษัทฯ ในฐานะเป็นบริษัทประกันชีวิต ไม่สามารถเอาประกันชีวิตกับนิติบุคคลได้ บริษัทฯ จึงแนะนำให้นิติบุคคลคัดเลือกกรรมการหรือผู้บริหารที่เป็นผู้บริหารสำคัญของ องค์กรกระทำการเอาประกันชีวิตแทนในนามนิติบุคคล และกำหนดให้ที่ประชุมกรรมการมีมติให้กรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวกระทำการ แทนนิติบุคคลในการซื้อประกันชีวิตเพื่อประโยชน์ของนิติบุคคล ซึ่งกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวจะถูกระบุให้เป็นผู้เอาประกันชีวิตในสัญญา ประกันชีวิตในฐานะตัวแทนนิติบุคคล ทั้งนี้ นิติบุคคลจะเป็นผู้สมัครเอาประกันชีวิตและชำระเบี้ยประกันชีวิต และหากผู้เอาประกันเสียชีวิตในระหว่างที่สัญญาประกันชีวิตยังมีผลบังคับ บริษัทฯ จะต้องจ่ายเงินเอาประกันชีวิตให้กับธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อเพื่อชำระหนี้แทน นิติบุคคลเป็นลำดับแรก และหากมีเงินเอาประกันชีวิตหลังชำระหนี้สินแทนนิติบุคคลเหลืออยู่ บริษัทฯ ต้องจ่ายผลประโยชน์ที่เหลือดังกล่าวให้แก่นิติบุคคลทั้งหมด เนื่องจากลักษณะการคุ้มครองชีวิตเพื่อชำระหนี้สินของนิติบุคคลดังกล่าวส่งผล ให้มูลค่าการเอาประกันชีวิตมีมูลค่าสูงกว่าภาวะปกติสำหรับการเอาประกันชีวิต ในรูปแบบของบุคคลธรรมดา โดยหนี้สินที่ได้รับความคุ้มครองอาจมีมูลค่าสูงถึง 200 – 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่สอดคล้องกับมูลค่าหนี้สินที่นิติบุคคลมีอยู่กับธนาคาร ระดับความคุ้มครองดังกล่าวมิใช่ระดับความคุ้มครองที่ปรากฏเป็นปกติของการเอา ประกันชีวิตแบบทั่วไปสำหรับบุคคลธรรมดา บริษัทฯ จึงขอทราบว่า

       1. กรณีนิติบุคคลตกลงจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตเพื่อประกันชีวิตกรรมการหรือผู้ บริหารเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของนิติบุคคล นิติบุคคลมีสิทธินำค่าเบี้ยประกันชีวิตดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณ กำไรสุทธิได้หรือไม่ อย่างไร

       2. กรณีกรรมการหรือผู้บริหารของนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้เอาประกันชีวิตแทน นิติบุคคลตามมติที่ประชุม และไม่มีผลประโยชน์จากค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ กรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวต้องนำค่าเบี้ยประกันชีวิตที่นิติบุคคลชำระให้ แก่บริษัทฯ มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ อย่างไร

       3. กรณีค่าสินไหมทดแทนเนื่องจากการเสียชีวิตของกรรมการหรือผู้บริหารที่บริษัทฯ จ่ายให้แก่ธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อเพื่อชำระหนี้แทนนิติบุคคล ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวถือเป็นการชำระหนี้ตามการค้าปกติของธนาคารหรือไม่ อย่างไร

        4. กรณีค่าสินไหมทดแทนเนื่องจากการเสียชีวิตของกรรมการหรือผู้บริหารที่บริษัทฯ จ่ายให้แก่ธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อเพื่อชำระหนี้แทนนิติบุคคล และส่วนที่จ่ายโดยตรงให้นิติบุคคล (ถ้ามี) ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวถือเป็นรายได้ของนิติบุคคลที่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อ เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือไม่ อย่างไร

แนววินิจฉัย

       1. กรณีตาม 1. บริษัทฯ ได้ออกกรมธรรม์เพื่อคุ้มครองนิติบุคคลซึ่งมีภาระหนี้สินกับธนาคารพาณิชย์ และเพื่อให้นิติบุคคลสามารถชำระหนี้ธนาคารพาณิชย์ได้ภายในกำหนดเวลา นิติบุคคลจึงต้องมีกรรมการหรือผู้บริหารที่มีความรู้ ความชำนาญในการบริหารงานของนิติบุคคล ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงของนิติบุคคล บริษัทฯ จึงให้นิติบุคคลคัดเลือกกรรมการหรือผู้บริหารสำคัญเพื่อเป็นผู้เอาประกัน ชีวิตแทนนิติบุคคล โดยนิติบุคคลตกลงจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตเพื่อประกันชีวิตกรรมการหรือ ผู้บริหารตามมติที่ประชุมกรรมการเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทฯ การจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันดังกล่าวจึงเป็นรายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อ กิจการโดยเฉพาะและไม่ใช่รายจ่ายที่มีลักษณะเป็นการส่วนตัวหรือการให้โดย เสน่หา นิติบุคคลฯ จึงมีสิทธินำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ นิติบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) และ(13) แห่งประมวลรัษฎากร

       2. กรณีตาม 2. เนื่องจากนิติบุคคลมิได้เป็นผู้เอาประกันชีวิต หากแต่เป็นกรณีกรรมการหรือผู้บริหารของนิติบุคคลเป็นผู้เอาประกันชีวิตตาม มติที่ประชุมของนิติบุคคล โดยนิติบุคคลตกลงจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตแทนกรรมการหรือผู้บริหาร และธนาคารผู้ให้สินเชื่อและนิติบุคคลเป็นผู้รับประโยชน์จากกรมธรรม์ ค่าเบี้ยประกันชีวิตที่นิติบุคคลจ่ายแทนกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวเข้า ลักษณะเป็นประโยชน์ใด ๆ อันเนื่องจากการจ้างแรงงานหรือเนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้ ตามมาตรา 40(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร กรรมการหรือผู้บริหารจึงต้องนำค่าเบี้ยประกันชีวิตไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 48(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร

       3. กรณีตาม 3. บริษัทฯ จ่ายเงินผลประโยชน์จากกรมธรรม์อันเนื่องจากการเสียชีวิตของกรรมการและผู้ บริหารของนิติบุคคลให้แก่ธนาคารผู้ให้สินเชื่อ กรณีดังกล่าวจะถือว่าเป็นการชำระหนี้ของนิติบุคคลที่มีต่อธนาคารผู้ให้สิน เชื่อหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างธนาคารผู้ให้สินเชื่อและนิติบุคคล

        4. กรณีตาม 4. บริษัทฯ ตกลงจ่ายเงินผลประโยชน์จากกรมธรรม์อันเนื่องจากการเสียชีวิตของกรรมการและ ผู้บริหารของนิติบุคคลให้แก่ธนาคารผู้ให้สินเชื่อเพื่อชำระหนี้แทนนิติบุคคล และหากเงินผลประโยชน์เหลืออยู่ บริษัทฯ ตกลงจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่นิติบุคคล ผลประโยชน์ที่ธนาคารผู้ให้สินเชื่อและนิติบุคคลได้รับตามกรมธรรม์ดังกล่าว ถือเป็นรายได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ธนาคารผู้ให้สินเชื่อและ นิติบุคคลต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้ 69/34432

ที่มา..http://www.rd.go.th/publish/32673.0.html

Comments

  1. จะทำเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นเค้าทำกัน จะให้ตาม Level มากกว่า

  2. การจ่ายเบี้ยประกันให้กรรมการ จำเป็นต้องมียอดเท่าเท่ากันทุกคนหรือไม่?
    หรือขึ้นกับตำแหน่งในการบริหารงานจริงในบริษัท

Speak Your Mind

*

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.