ผู้ประกันตนที่ออกจากงาน จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรจากการประกันสังคม ?
- เมื่อลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตน (ตามมาตรา 33) ลาออกจากงาน ลูกจ้างยังคงได้รับความคุ้มครอง 4 กรณี คือ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และตาย จากการประกันสังคมต่อไปอีก 6 เดือน
- หากลูกจ้างมีความประสงค์จะประกันตนต่อ หลังจากสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง ก็สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39 ได้ ภายใน 6 เดือน นับแต่วันสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง
คุณสมบัติของผู้สมัคร
- เคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน
- ต้องไม่เป็นผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคม
การยื่นใบสมัคร
- ต้องยื่นใบสมัครตามแบบแสดงความจำนง (แบบ สปส. 1-20) ด้วยตนเอง ภายใน 6 เดือน นับแต่วันสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง
- สถานที่ยื่นใบสมัคร กรุงเทพมหานครยื่นได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ ภูมิภาคยื่นได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสาขา
หลักฐานการสมัคร
- แบบแสดงความจำนง (สปส. 1-20)
- บัตรประกันสังคมพร้อมสำเนา
- บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้พร้อมสำเนา
- หลักฐานแสดงการจ่ายเงินสมทบมาแล้ว จำนวน 12 เดือน
วันเริ่มต้นการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39
ผู้สมัครจะเริ่มต้นการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ในวันที่ 1 ของเดือนถัดจากเดือนที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานประกันสังคมตัวอย่างเช่น นาย ก. ยื่นใบสมัครเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2544 ได้รับอนุมัติจากสำนักงานประกันสังคมเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 นาย ก. มีผลเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2544 เป็นต้นไป
เงินสมทบที่ต้องนำส่ง
- คำนวณเงินสมทบจากฐานค่าจ้างเดือนละ 4,800 บาท อัตราเดียวเท่ากันทุกคน
- ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ต้องออกเงินสมทบเป็น 2 เท่า ของอัตราเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนแต่ละกรณีตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
- ผู้ประกันตนมาตรา 39 ต้องนำส่งเงินสมทบ 6 กรณี (เจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร ตาย สงเคราะห์บุตรและชราภาพ) ในอัตราเดือนละ 288 บาท (6% x 4,800 บาท)
หน้าที่ของผู้ประกันตน มาตรา 39
- ต้องนำส่งเงินสมทบภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน หากนำส่งเงินสมทบเกินกำหนด จะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 2 ต่อเดือน
- แจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ให้สำนักงานประกันสังคมทราบ ดังนี้
- กรณีย้ายที่อยู่หรือเปลี่ยนสถานที่นำส่งเงินสมทบ ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน
- กรณีเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ต้องแจ้งทันที พร้อมแนบสำเนาหลักฐาน
- กรณีประสงค์ลาออก หรือกลับเข้าทำงาน และมีสถานะเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรทันที ณ สำนักงานประกันสังคมที่จ่ายเงินสมทบ
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้รับความคุ้มครอง กรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร ตาย สงเคราะห์บุตร และชราภาพ ต่อเนื่องจากการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33
- การใช้การบริการทางการแพทย์ ในกรณีเจ็บป่วย จะได้รับบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล ซึ่งได้ระบุสถานพยาบาลตามที่ได้เลือกไว้
เหตุที่ทำให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 สิ้นสภาพ
- ไม่ส่งเงินสมทบ 3 เดือน ติดต่อกัน (สิ้นสภาพตั้งแต่เดือนแรกที่ไม่ส่งเงินสมทบ)
- ลาออก
- กลับเข้าเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33
- ตาย
- ภายในระยะเวลา 12 เดือน ส่งเงินสมทบไม่ครบ 9 เดือน
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับภายหลังจากการสิ้นสภาพ
- การสิ้นสภาพตามข้อ 1, 2 และ 5 จะได้รับการคุ้มครองเฉพาะกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และตายต่อไปอีก 6 เดือนนับแต่วันที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน ทั้งนี้ ต่อเมื่อผู้ประกันตนได้นำส่งเงินสมทบจนครบเงื่อนเวลาที่ก่อให้เกิดสิทธิ
- การสิ้นสภาพตามข้อ 3 สามารถนับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบต่อเนื่องได้ทุกกรณี
- การสิ้นสภาพตามข้อ 4 และมีบุตรที่อยู่ระหว่างการได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร จะได้รับเงินสงเคราะห์ต่อเนื่องจนบุตรอายุครบเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง (6 ปีบริบูรณ์)
ทางเลือกใหม่ในการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 39
หากผู้ประกันตนมีความประสงค์จะส่งเงินสมทบโดยให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินฝากของท่าน จะต้องปฏิบัติดังนี้
- เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ณ สาขาหลักที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัดได้แจ้งให้ทราบ สำหรับการฝากครั้งต่อไป ผู้ประกันตนจะนำฝากเข้าบัญชีธนาคารที่สาขาใดก็ได้
- ให้กรอกรายละเอียดและยื่นแบบคำขอส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน ตามมาตรา 39 โดยทางธนาคาร ณ สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัดที่ท่านส่งเงินสมทบอยู่ในปัจจุบัน
- ธนาคารจะหักเงินสมทบจากบัญชีเงินฝากของท่าน เดือนละ 1 ครั้ง (ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป) โดยธนาคารจะหักค่าธรรมเนียมตามอัตราที่ธนาคารประกาศกำหนด (ครั้งละ 10 บาท) ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวก ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับผู้ประกันตน
- กรณีในบัญชีมีเงินฝากไม่เพียงพอที่ธนาคารจะดำเนินการหักบัญชีไว้ ท่านจะต้องนำส่งเงินสมทบด้วยตนเอง ณ สำนักงานประกันสังคม ที่ท่านนำส่งเงินสมทบ
Speak Your Mind